การรับมือกับโรคเบาหวาน
เบาหวานถือเป็นโรคยอดนิยมอันดับต้นๆของประเทศไทยในปัจจุบันเลยทีเดียว สามารถเป็นได้ทุกช่วงวัน และมักจะเป็นโรคพบบ่อยในผู้สูงอายุ โดยสถิติในปัจจุบันนั้นประเทศไทยมีผู้ป่วยเป็นโรคนี้ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ทั้งนี้ในความเป็นจริงแล้ว เบาหวานเป็นจัดเป็นอีกโรคหนึ่งที่มีความอันตรายมาก โดยทุกวันนี้ผลสำรวจพบว่า เบาหวานเป็น 1 ใน 5 โรคที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุดทั่วโลก ความอันตรายนี้ส่งผลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ ที่มีความเสื่อมโทรมของร่างการ ผิวหนัง รวมไปถึงภูมิคุ้มกันทางด้านสุขภาพต่าง ๆ เพราะเมื่อป่วยเป็นโรคเบาหวานแล้ว ก็จะมีสภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ในร่างกายตามมาอีกมายมาก ทั้งหลอดเลือด หัวใจ ตา รวมไปถึงการเกิดแผลตามร่างกาย ที่ยากต่อการรักษาให้หาย แต่ง่ายต่อการลุกลาม โดยในบางกรณีอาจเป็นหนักจนถึงขึ้นต้องตัดแขนหรือขาออกไปเลยทีเดียว
โรคเบาหวานเมื่อเกิดขึ้นแล้ว สมาชิกคนอื่นๆในครอบครัว คนให้กำลังใจผู้ป่วย รวมไปถึงตัวผู้ป่วยเองก็ควรให้กำลังใจตนเอง ทำสุขภาพจิตใจให้ดี ทั้งนี้หากเครียดเกินไป ความเครียดนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้อาการของโรคทรุดหนักลงได้ อย่างไรก็ดีหากไม่ต้องการให้เกิดการทรุดตัวของโรคนั้น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างถูกต้องสม่ำเสมอ รวมไปถึงประเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆที่เคยทำมา ให้เข้ากับสถานการณ์ของโรคที่เป็น เพื่อที่สร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายและจิตใจ อันจะเป็นผลให้ระดับของอาการไม่ทรุดลงไป และเกณฑ์ต่างๆของโรคอยู่ในโซนที่ปลอดภัย
การปฏิบัติตัวเมื่อเมื่อเป็นโรคเบาหวาน
พบแพทย์การรับมือกับโรคเบาหวาน
ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ ควรพบแพทย์ตามนัดอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อรับยาและคำแนะนำต่างๆจากแพทย์ ทั้งนี้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้ระดับอาการต่ำลง หรือมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป
ควบคุมอาหารการรับมือกับโรคเบาหวาน
จัดเป็นส่วนสำคัญที่สุดของผู้ป่วยโรคนี้เลยทีเดียวเนื่องจากอาหารนั้นส่งผลโดยตรงต่อผู้ป่วยโรคนี้ จึงควรระมัดระวังเป็นอย่างดี ทั้งเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ย่อยง่าย ลดแป้ง และน้ำตาล และอาหารรสจัดต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ นอกจากนี้ควรรับประทานอาหาร ให้เป็นเวลา ตรงตามมื้อต่อวันเลือกประเภทที่มีกากใยสูง ที่สำคัญคือการงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เนื่องจากจะส่งผลให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง และยังเป็นอันตรายที่จะส่งผลกับภาวะแทรกซ้อนอื่นๆของโรคนี้อีกด้วย
ดูแลสุขภาพการรับมือกับโรคเบาหวาน
ผู้ป่วยโรคนี้จำเป็นต้องดูแลทั้งสุขภาพกายและจิตใจ โดยในส่วนของจิตใจนั้นควรทำใจให้สบาย ไม่ควรหมกมุ่นอยู่กับโรคภัยที่เป็นอยู่ และเครียดจนเกินไป ส่วนในด้านสุขภาพร่างกายนั้น ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังตามความเหมาะสมของกำลังที่มีอย่างสม่ำเสมอ ดูแลสุขภาพช่องปากและความสะอาดของร่างกายให้ดี ตรวจเช็คสุขภาพตาโดยการไปพบแพทย์เฉพาะทาง ประมาณ ปีละ 1 ครั้งเพื่อป้องกันการลุกลามของเบาหวานที่อาจจะไปถึงตาได้ นอกจากนี้ยังต้องคอยระวัง ไม่ให้เกิดบาดแผลตามส่วนต่างๆของร่างการ โดยเฉาะที่เท้า หากมีแผลควรรีบไปพบแพทย์ไม่ควรปล่อยไว้เพราะอาจจะลุกลามได้
ทั้งหมดนี้คือแนวทางปฏิบัติเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยหรือคนในครอบครัว ต้องหมั่นสังเกตอาการหรือความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายผู้ป่วย และไปพบแพทย์เมื่อถึงเวลานัด นอกจากนี้ห้ามผู้ป่วยซื้อยากินเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ที่ดูแล เพราะอาจะเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ เบาหวานจัดเป็นโรคที่ไม่ค่อยแสดงอาการ แต่อันตรายมาก ปัจจุบันไม่ใช่เพียงโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังมีความเสี่ยงสำหรับคนทุกวัย ทั้งนี้คนในครอบครัว ควรดูแลเอาใจใส่ ทั้งการดูแลสุขภาพ อาหารการกิน ตลอดออกกำลังกาย และตรวจเช็คสุขภาพประจำปีอยู่เสมอ ก็จะช่วยให้คนในครอบครัวที่ยังไม่เป็นห่างไกลจากโรคนี้ รวมไปถึงคนที่เป็นอยู่แล้วมีอาการดีขึ้นไม่ทรุดลงจนไปอยู่ในขั้นที่อันตราย