ทอนซิลอักเสบไม่ใช่เรื่องกล้วย ๆ
เชื่อว่าใครหลายคนรู้จักอาการชนิดนี้เป็นอย่างดี ทอนซิลอักเสบคือภาวะอักเสบของต่อมทอนซิล ซึ่งอาการเด่นชัดที่เราสังเกตและรู้สึกได้ก็คืออาการเจ็บคอ ซึ่งต่อมทอนซิลเกี่ยวข้องกับระบบต่อมน้ำเหลืองของร่างกาย มีหน้าที่เป็นระบบคุ้มกันให้ร่างกาย จับและทำลายเชื้อโรคที่จะเข้ามาทางร่างกายโดยผ่านหลอดอาหาร หากเราทำการสำรวจกลุ่มปประชากรที่เป็นต่อมทอลซินอักเสบบ่อยที่สุด จะพบว่าเด็กที่อายุน้อยกว่า 10 ปี มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้บ่อยมาก เนื่องจากเด็กมีภูมิคุ้มกันที่ไม่คงที่ ต่อมทอนซิลจึงต้องทำงานหนัก แต่หลังจากนี้แล้วต่อมทอนซิลจะทำงานน้อยลงหรือไม่ทำงานเลย นั่นไม่ได้หมายความว่าคนที่อายุมากกว่า 10 ปี จะไม่เป็นโรคทอนซิลอักเสบ มันหมายถึงสามารถเป็นได้แต่มีโอกาสน้อย
การเกิดทอนซิลอักเสบมักจะมาพร้อมกับอาการไข้ หนาวสั่น เจ็บคอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาต้องกลืนอาหาร จะกลืนลำบากมาก บางคนอาจจะเป็นถึงขนาดกลืนน้ำลายไม่ได้ ทำให้น้ำลายไหลย้อยตลอดเวลา มากไปกว่านั้นบางคนถึงกับเกิดอาการอาเจียนขึ้นมา เนื่องจากหลังรับประทานอาหารไปแล้วกลายเป็นว่าอาหารไปรบกวนต่อมทอนซิลอยู่ ความน่ากลัวของโรคทอนซิลอักเสบไม่ได้มีแค่นี้ เพราะอาจจะนำไปสู่อาการคอเป็นหนอง ซึ่งเราจะมาบอกทุกคนว่าคอเป็นหนอง กินยาอะไร รักษาแบบไหนถึงจะหาย
อาการคอเป็นหนองในโรคทอนซิลอักเสบเกิดจากการติดเชื้อของขั้นรุนแรง ซึ่งคอเป็นหนอง กินยาอะไร ยานั้นมีชื่อว่าเพนนิซิลิน ซึ่งทำหน้าที่ในการกำจัดเชื้อต้นเหตุให้หายไป แต่ในปัจจุบันเชื้อแบคทีเรียเกิดการดื้อยามากขึ้นกว่าในอดีต แพทย์จึงจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะขั้นรุนแรง ซึ่งบางรายแพทย์ก็จะแนะนำให้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจนกว่าอาการจะดีขึ้น มีการให้น้ำเกลือ และให้ยาต้านจุลชีพหลอดเลือดดำ ซึ่งหากเราไม่ฟังคำสั่งของแพทย์หรือปล่อยให้อาการนี้เกิดขึ้นไปเรื่อย ๆ เชื้อจะเกิดการลามผ่านช่องคอเข้าไปสู่ทางปอดและหัวใจได้ เคสที่แย่ที่สุดคือเชื้อสามารถแพร่เข้าสู่กระแสเลือดได้ ซึ่งจะกระจายไปทั่วร่างกายทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต อันตรายเป็นอย่างมาก อีกทั้งการเกิดโรคทอนซิลอักเสบแบบเฉียบพลัน อาจจะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนจากโรคหัวใจและโรคไตได้
เรียกได้ว่าอาการคอเป็นหนองในโรคทอนซิลอักเสบไม่ใช่เรื่องกล้วย ๆ ที่เราจะสามารถปล่อยปละ ละเลยได้เลย อย่างไรก็ตามวิธีที่ป้องกันการเกิดโรคชนิดนี้ได้ง่ายที่สุด ก็คือการใช้น้ำยาบ้วนปากหลังจากแปรงฟัน เพราะน้ำยาบ้วนปากสามารถไปลดเชื้อแบคทีเรียได้ แต่มีข้อแม้ข้อนึงคือน้ำยาบ้วนปากต้องไม่มีแอลกอฮอล เพราะแอลกอฮอลอาจจะไปทำลายเยื่อบุช่องปากได้
ทอนซิลอักเสบไม่ใช่เรื่องกล้วย ๆ
เชื่อว่าใครหลายคนรู้จักอาการชนิดนี้เป็นอย่างดี ทอนซิลอักเสบคือภาวะอักเสบของต่อมทอนซิล ซึ่งอาการเด่นชัดที่เราสังเกตและรู้สึกได้ก็คืออาการเจ็บคอ ซึ่งต่อมทอนซิลเกี่ยวข้องกับระบบต่อมน้ำเหลืองของร่างกาย มีหน้าที่เป็นระบบคุ้มกันให้ร่างกาย จับและทำลายเชื้อโรคที่จะเข้ามาทางร่างกายโดยผ่านหลอดอาหาร หากเราทำการสำรวจกลุ่มปประชากรที่เป็นต่อมทอลซินอักเสบบ่อยที่สุด จะพบว่าเด็กที่อายุน้อยกว่า 10 ปี มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้บ่อยมาก เนื่องจากเด็กมีภูมิคุ้มกันที่ไม่คงที่ ต่อมทอนซิลจึงต้องทำงานหนัก แต่หลังจากนี้แล้วต่อมทอนซิลจะทำงานน้อยลงหรือไม่ทำงานเลย นั่นไม่ได้หมายความว่าคนที่อายุมากกว่า 10 ปี จะไม่เป็นโรคทอนซิลอักเสบ มันหมายถึงสามารถเป็นได้แต่มีโอกาสน้อย
การเกิดทอนซิลอักเสบมักจะมาพร้อมกับอาการไข้ หนาวสั่น เจ็บคอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาต้องกลืนอาหาร จะกลืนลำบากมาก บางคนอาจจะเป็นถึงขนาดกลืนน้ำลายไม่ได้ ทำให้น้ำลายไหลย้อยตลอดเวลา มากไปกว่านั้นบางคนถึงกับเกิดอาการอาเจียนขึ้นมา เนื่องจากหลังรับประทานอาหารไปแล้วกลายเป็นว่าอาหารไปรบกวนต่อมทอนซิลอยู่ ความน่ากลัวของโรคทอนซิลอักเสบไม่ได้มีแค่นี้ เพราะอาจจะนำไปสู่อาการคอเป็นหนอง ซึ่งเราจะมาบอกทุกคนว่าคอเป็นหนอง กินยาอะไร รักษาแบบไหนถึงจะหาย
อาการคอเป็นหนองในโรคทอนซิลอักเสบเกิดจากการติดเชื้อของขั้นรุนแรง ซึ่งคอเป็นหนอง กินยาอะไร ยานั้นมีชื่อว่าเพนนิซิลิน ซึ่งทำหน้าที่ในการกำจัดเชื้อต้นเหตุให้หายไป แต่ในปัจจุบันเชื้อแบคทีเรียเกิดการดื้อยามากขึ้นกว่าในอดีต แพทย์จึงจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะขั้นรุนแรง ซึ่งบางรายแพทย์ก็จะแนะนำให้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจนกว่าอาการจะดีขึ้น มีการให้น้ำเกลือ และให้ยาต้านจุลชีพหลอดเลือดดำ ซึ่งหากเราไม่ฟังคำสั่งของแพทย์หรือปล่อยให้อาการนี้เกิดขึ้นไปเรื่อย ๆ เชื้อจะเกิดการลามผ่านช่องคอเข้าไปสู่ทางปอดและหัวใจได้ เคสที่แย่ที่สุดคือเชื้อสามารถแพร่เข้าสู่กระแสเลือดได้ ซึ่งจะกระจายไปทั่วร่างกายทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต อันตรายเป็นอย่างมาก อีกทั้งการเกิดโรคทอนซิลอักเสบแบบเฉียบพลัน อาจจะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนจากโรคหัวใจและโรคไตได้
เรียกได้ว่าอาการคอเป็นหนองในโรคทอนซิลอักเสบไม่ใช่เรื่องกล้วย ๆ ที่เราจะสามารถปล่อยปละ ละเลยได้เลย อย่างไรก็ตามวิธีที่ป้องกันการเกิดโรคชนิดนี้ได้ง่ายที่สุด ก็คือการใช้น้ำยาบ้วนปากหลังจากแปรงฟัน เพราะน้ำยาบ้วนปากสามารถไปลดเชื้อแบคทีเรียได้ แต่มีข้อแม้ข้อนึงคือน้ำยาบ้วนปากต้องไม่มีแอลกอฮอล เพราะแอลกอฮอลอาจจะไปทำลายเยื่อบุช่องปากได้