พาราเซตามอล ยาแก้ปวดสามัญประจำบ้านที่หลายคนยังใช้แบบผิดๆ
เมื่อพูดถึงยาสามัญประจำบ้านชื่อยาตัวแรกที่หลายคนจะต้องนึกถึงอย่างแน่นอนมันก็คือยาแก้ปวดอย่างพาราเซตามอลนั่นเอง นั่นก็เป็นเพราะว่ามันเป็นยาที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่ยังเด็ก เป็นยาอรรถประโยชน์ที่ไม่ว่าจะปวดอะไรก็ตามแค่รับประทานเข้าไปก็จะสามารถบรรเทาอาการปวดได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่ามันจะเป็นยาที่เราคุ้นเคยและใช้มาตั้งแต่เด็กจนโตแต่ความจริงแล้วมันเป็นยาที่หลายคนก็ยังคงใช้แบบผิดๆ เสมอมา และการใช้ยาพาราที่ผิดนั้นจะส่งผลต่อร่างกายของเราในระยะยาวอย่างรุนแรงหากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ยา วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาดูว่ามีอะไรบ้างที่เรายังเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวยาแก้ปวดตัวนี้กัน
- ปริมาณยา หลายคนเชื่อว่าการรับประทานยาพาราเซตามอล 500 มิลลิกรัม 2 เม็ดจะช่วยให้บรรเทาอาการปวดได้ดียิ่งขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วการรับประทานยานั้นขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวว่าเราควรใช้ยาเป็นปริมาณกี่มิลลิกรัม หากใช้ยาขนาด 325 มิลลิกรัม สำหรับคนที่มีน้ำหนักตัว 22-33 กิโลกรัมให้รับประทาน 1 เม็ด น้ำหนัก 33-44 กิโลกรัมให้รับประทาน 1 เม็ดครึ่ง มากกว่า 44 กิโลกรัมให้รับประทาน 2 เม็ด สำหรับตัวยา 500 มิลลิกรัม สำหรับคนที่น้ำหนัก 35ถึง 50 กิโลกรัมให้รับประทาน 1 เม็ด น้ำหนักตัว 50 ถึง 60 กิโลกรัมให้รับประทาน 1 เม็ดครึ่ง น้ำหนักมากกว่า 67 กรัมให้รับประทานครั้งละ 2 เม็ด ปริมาณที่ไม่ควรเกินต่อวันคือ 4000 มิลลิกรัม
- ระยะห่างในการรับประทาน ระยะห่างที่เหมาะสมในการรับประทานยาพาราเซตามอลคือ 4-6 ชั่วโมง หาเวลาผ่านไปเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงไม่ควรรับประทานยาตามเข้าไป สามารถรับประทานได้เลยโดยไม่จำเป็นที่จะต้องรอหลังอาหาร
- การรับประทานติดต่อกัน ยาพารานั้นเป็นยาที่ไม่ควรรับประทานเกิน 5 วันติดต่อกันเนื่องจากจะส่งผลต่อการทำงานของตับที่จะขับของเสียอย่างเช่นยาพาราออกจากร่างกายของเรา หากเรารับประทานยา 5 วันติดต่อกันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์เพื่อรักษาอย่างละเอียด
- การใช้ยาในผู้ป่วย ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตและโรคตับนั้นแม้ว่ายาพาราจะปลอดภัยเป็นอย่างมากแต่อย่างไรก็ตามมันยังคงส่งผลข้างเคียงกับทั้งสองโรคดังกล่าว ดังนั้นทุกครั้งก่อนใช้ยาจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนอยู่เสมอ
- กินยาพาราดักถูกต้องหรือไม่ การกินยาพาราดักนั้นความจริงแล้วเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเนื่องจากมันเป็นยาที่ต้องกินเมื่อมีอาการ ความเชื่อในการกินยาพาราดักไว้ก่อนอย่างเช่นการจะออกไปทำกิจกรรมที่อาจจะทำให้ป่วยเป็นไข้หวัดหรือการรับประทานก่อนการศัลยกรรมอาจทำให้มีอาการดื้อยาในอนาคตได้
พาราเซตามอล ยาแก้ปวดสามัญประจำบ้านที่หลายคนยังใช้แบบผิดๆ