วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า

วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า

โรคโคโรน่าไวรัสหรือโควิด-19ที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีในปัจจุบันเพราะไวรัสตัวนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลกโดยแต่ละประเทศได้มีการคิดริเริ่มในการผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดโดยวัคซีนที่ได้คิดค้นกันขึ้นมานั้นมีฤทธิ์ที่แตกต่างกันไปวันนี้แอดจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ทางสหราชอาณาจักรได้คิดค้นวัคซีนตัวนี้มาเพราะในช่วงนั้นประเทศสกอตแลนด์ได้มีการแพร่ระบาดของโควิด-19อย่างหนักทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19ของสหราชอาณาจักรเพิ่มมากขึ้น ทำให้ทางสหราชอาณาจักรเริ่มหาวัคซีนทางบริษัทแอสตราเซเนการ่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดร่วมกันคิดค้นวัคซีนตัวนี้และได้มีการขึ้นทะเบียนว่าเป็นวัคซีนที่ใช้ในภาวะฉุกเฉินในทั้งหมด70ประเทศคลุมทั้งหมด6ทวีปในโลก

ประสิทธิภาพของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า

ในการฉีดวัคซีนตัวนี้จะต้องฉีดทั้งหมด2เข็ม เมื่อฉีดเข็มแรกควรรออีกประมาณ4-26 สัปดาห์ถึงจะสามารถฉีดเข็มที่สองได้โดยการฉีดเข็มแรกเมื่อผ่านไปประมาณ22วันวัคซีนจะเริ่มมีผู้คุ้มกันถึง96.7%และเมื่อฉีดครบทั้งสองเข็มวัคซีนจะมีประสิทธิภาพเต็มที่สามารถลดการเสียชีวิตจากโควิด-19ได้ถึง100%เลยทีเดียว ในการทดสอบฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าระยะแรกมีประชากร4คนจากล้านคนเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากวัคซีนแต่อย่างไรก็ตามทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้บอกว่าคนที่ได้ประโยชน์จากวัคซีนตัวนี้มีมากกว่าจึงทำให้คุ้มที่จะเสี่ยง

ใครสามารถฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าชนิดนี้ได้บ้าง

  1. ผู้ที่ฉีดได้ต้องมีอายุมากกว่า18ปี
  2. ในวันที่ต้องฉีดวัคซีนมีอุณหภูมิร่างกายห้ามสูงเกิน37.5
  3. ไม่มีประวัติของการแพ้ยาหรือยาที่ได้มีการระบุไว้
  4. ไม่มีโรคประจำตัวที่อยู่ในขั้นรุนแรง เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ ระบบประสาท
  5. ผู้ที่มีเกล็ดเลือดมีความผิดปกติก่อนจะฉีดต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเพื่อตรวจสอบผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น

วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า

ผลข้างเคียงของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า

            ผลข้างเคียงที่สามารถพบได้ทั่วไปเมื่อได้ฉีดวัคซีนก็จะมีอาการปวดบวมบริเวณที่ฉีด ปวดหัวรู้สึกอ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวแรง จะปวดเมื่อยบริเวณกล้ามเนื้อรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว อาจจะมีไข้ขึ้นเล็กน้อยมีอาการหนาวสั่นอาจจะปวดตามข้อต่างๆและอาเจียน อาการข้างเคียงอื่นๆที่พบได้ยากเมื่อเกิดขึ้นควรไปพบแพทย์ เช่น อาการต่อมน้ำเหลืองโต รู้สึกเบื่ออาหาร มักจะมึนและเวียนหัวอยู่ตลอด มีผื่นแดงคันขึ้นบริเวณผิวหนัง เหงื่ออกมากกว่าปกติ ใครที่มีอาการจำพวกนี้แนะนำว่าควรไปพบแพทย์อย่าปล่อยไว้ให้หายเองนะคะ

 

 

 

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *