อาหารและพฤติกรรมที่ควรปรับสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
โรคความดันโลหิตสูงปัจจุบันเป็นอีกหนึ่งโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ เกิดจากสภาวะการทำงาน ของเลือดที่มีแรงดันสูงในขณะที่กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัว และคลายตัว ค่าเฉลี่ยอยู่ในอัตราไม่ต่ำกว่า 130 -80 มิลลิเมตรปรอท สำหรับโรคนี้เมื่อเป็นแล้วอาจจะไม่แสดงอาการความผิดปกติออกมามากมายนัก แต่หากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงที่เคยทำอยู่เป็นประจำ ก็อาจจะส่งผลให้เกิดความทรุดตัวของโรคได้ ทั้งนี้หากอาการของโรคความดันโลหิตสูง เริ่มทรุดนั้น ก้ออาจจะส่งผล ให้เกิดความผิดปกติต่างๆ ของร่างกายเช่น เวียนศีรษะ, หน้ามืด, ใจสั่น, แน่นหน้าอก, รวมไปถึงอาจมีเลือดกำเดาไหลร่วมกับอาการอื่นๆอีกด้วย
ทั้งนี้ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการทรุดตัวของโรคนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความอ้วน, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, และอาหาร สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่สำคัญต่อโรคทั้งหมด โดยเมื่อรู้ตัวว่าป่วยเป็นโรคนี้แล้วก็ควรที่จะเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ เพื่อสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ทั้งนี้หากผู้ป่วยยังดื้อดึง ที่จะไม่ใส่ใจในสุขภาพของตนเองต่อไปเป็นระยะเวลานานเข้า ก็อาจจะส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆเพิ่มเข้ามาจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
อาหารถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของผู้ป่วย ไม่เพียงแค่โรคความดันโลหิตเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงโรคอื่นๆ อีกด้วย ปัจจุบันอาหารที่เรารับประทานนั้นสามารถส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพได้เป็นอย่างดี การเลือกทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ เหมาะสมกับสภาพความต้องการของร่างกายก็จะส่งผลให้ร่างกายแข็งปราศจากโรคภัย แต่ถ้าหากยังเลือกที่จะรับประทานอาหารตามใจปากโดยไม่สนคุณประโยชน์และโทษต่างๆที่จะเกิดขึ้น ก็สามารถส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ได้เช่นกัน
ปัจจุบันสำหรับโรคความดันโลหิตสูงซึ่งเป็นโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุนั้น มีผลพิสูจน์ทางการแพทย์ออกมายืนยันแล้ว ว่าการรับประทานอาหาร สามารถช่วยในการลดความดันโลหิตได้ โดยกลุ่มอาหารที่เหมาะสมกับผู้ป่วยในโรคนี้ มีชื่อเรียกว่า อาหารแดช DASH ซึ่งมาจากกลุ่มคำรวมกัน ดังนี้ (D= Dietary A = Approach S = Stop H = Hypertension) และมีชื่อเรียกเป็นภาษาไทยว่า อาหาร ลดความดัน โดยมีผลการวิจัยจากต่างประเทศมารับรองแล้วว่า การกินอาหาร Dash นั้นเทียบเท่าการใช้ยา
ลดความดันเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังไม่มีผลข้างเคียงอื่นๆอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยนี้เกิดขึ้นภายในต่างประเทศ แต่ผู้ป่วยสามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับสิ่งต่างๆ ของประเทศไทยได้ดังนี้
- ทานผักสด ผลไม้ ธัญพืช ปลา และนมพร่องมันเนยชนิดต่างๆ และอาหารกลุ่มที่มีแคลเซียมสูง ให้มากขึ้นเป็นสองเท่า จากที่เคยกินตามปกติ
- ลดอาหารจำพวกที่มีโซเดียม อาหารที่มีรสหวานจัดและให้น้ำตาลสูง อาหารที่มันเยอะ และเนื้อสัตว์ต่างๆ ให้น้อยลงจากเดิม ประมาน 50% จากที่เคยกินตามปกติ โดยการปรับตัวเหล่านี้ผู้ป่วยสามารถเริ่มได้ โดยการค่อยเป็นค่อยไป อาจจะเริ่มจากปริมาณที่ไม่มากไปแล้วจึงค่อยๆเพิ่มเมื่อเริ่มเกิดความเคยชิน ทั้งนี้นอกจากประเภทของอาหารแล้ว รสชาดที่กินก็มีส่วนสำคัญ ผู้ป่วยสมควรค่อยๆลดปริมาณเครื่องปรุงต่างๆ ลงทีละน้อยเพื่อให้เกิดความคุ้นชินเช่นกัน
อย่างไรก็ตามนอกจากประเภทอาหารต่างๆ ที่ควรลดและเพิ่มนั้น เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีมาขึ้นผู้ป่วยโรคนี้ควรที่จะออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย ก็จะสามารถได้ประโยชน์ทั้งน้ำหนักตัวที่สมดุล รวมไปถึง ร่างกายแข็งแรงและลดความดันในเลือดได้อีกด้วย อีกหนึ่งสิ่งสำคัญไม่แพ้อาหารเลยก็คือแอลกอฮอล์ เมื่อทราบว่าป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงนั้น ควรเลิกดื่มสิ่งเหล่านี้ ทั้งนี้หากไม่สามารถเลิกทันทีได้ ก็ควรค่อยๆลดปริมาณลงไปเรื่อย จนสามารถเลิกได้ในสุด เนื่องการการดื่มแอลกอฮอล์เป็นปริมาณมาก และสะสมเป็นระยะเวลานานนั้น จะส่งผลให้ง่ายต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ จากโรคที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้อาจเกิดได้มากกว่า 1 โรค และหากยังดื่มต่อไปการอาจจะมีอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว
หากเริ่มที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ รวมไปถึงประเภทของอาหารแล้วนั้น ผู้ป่วยสามารถบันทึกสถิติความดันโลหิตเอาไว้เพื่อแสดงการเปรียบเทียบกัน ทั้งนี้หากสามารถทำได้อย่างต่อเนื่องก็จะเห็นผลได้ชัดเจนเลยว่าสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ระดับความดันลดลงและอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย และหากสามารถทำได้เรื่อยๆจนติดเป็นนิสัย อาการของโรคจะไม่กำเริบหรือทรุดลง ระดับความดันเป็นปกติอยู่เสมอ ก็จะส่งผลให้การเป็นโรคความดันก็จะไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอีกต่อไป หากรู้วิธีรับมือ