เครียดสะสม ทำไงดี
ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่างวดบัตรครดิตตต … โอ้ยย ทั้งค่าใช้จ่ายที่ต้องเผชิญ ไหนจะสภาพสังคม สิ่งแวดล้อม งาน เงิน ความรักอีก สารพัดปัญหาเยอะแยะวุ่นวายไปหมด แบบนี้จะไม่ให้เครียดได้ยังไง … ปฏิเสธไม่ได้เลยนะคะว่าทุกวันนี้ เราต่างมีเรื่องให้คิดเยอะแยะมากมายไปหมด ซึ่งปัญหาเหล่านี้เนี่ยแหละค่ะ ที่จะนำเราไปสู่สภาวะเครียด นานเข้า ๆ จนกลายเป็น ความเครียดสะสม ตอนนี้หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองมี สภาวะเครียดสะสม อยู่ก็เป็นได้นะคะ เพราะอาจจะคุ้นชินกับพฤติกรรมต่าง ๆ จนเป็นชีวิตประจำวันไปแล้ว เช่น หงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับ คิดมาก ซึ่งเจ้าความเครียดสะสม นั้น มันร้ายกาจกว่าที่เราคิดนะคะ เพราะมันสามารถนำไปสู่ โรคซึมเศร้า โรคหัวใจ และโรคร้ายแรงต่าง ๆ ได้เลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะพาทุกท่านไปดูวิธีการกำจัดความเครียดสะสม ให้ออกไปจากชีวิตเรากันค่า
เริ่มจาก การทำในสิ่งที่สนใจและชื่นชอบค่ะ วางปัญหาลงก่อน หันมาโฟกัสและให้เวลาในสิ่งที่เราชอบจะช่วยให้เราหยุดโฟกัสกับปัญหาไปชั่วขณะหนึ่งได้ค่ะ นอกจากนี้เมื่อร่างกายได้ทำในสิ่งที่ชื่นชอบก็จะมีความสุขและสร้างสารเอ็นโดรฟินขึ้นมาต่อสู้กับฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเจ้าฮอร์โมนตัวร้ายนี้นี่แหละค่ะ ที่เป็นสาเหตุทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง และนำไปสู่โรคต่าง ๆ ดังนั้น การปล่อยให้ตัวเองได้ทำในสิ่งที่ชื่นชอบ เช่น การวาดภาพ ฟังเพลง ปลูกต้นไม้ นอกจากจะเป็นการหยุดคิดเรื่องปัญหาต่าง ๆ แล้ว ยังช่วยสร้างสมาธิและทำให้จิตใจสงบมากขึ้นได้อีกด้วยค่ะ
การจัดสรรเวลาในชีวิตก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญเช่นกันค่ะ บางคนเกิดความเครียดสะสมจากการทำงานหนักจนเกินไป ฉะนั้นการจัดสรรเวลาในชีวิตก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญไม้แพ้กันค่ะ โดยคุณอาจจะแบ่งเวลาของคุณให้กับกิจกรรมสุดโปรด หนังเรื่องโปรด ครอบครัว การสังสรรค์กับเพื่อนฝูง หรือแม้กระทั่งแบ่งเวลาให้กับสัตว์เลี้ยงของคุณ ลองหยุดคิดเรื่องงานและแบ่งเวลาไปทำอย่างอื่นจะได้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นค่ะ อ้อ ที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ หากคุณพอจะมีเวลาเหลือหลังจากที่แบ่งให้กับคนรอบข้างแล้ว การแบ่งไว้เวลาไว้สำหรับออกกำลังกายหรือนั่งสมาธิ ก็เป็นวิธีที่ดีไม่แพ้กันนะคะ เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกสงบในจิตใจแล้ว ก็ยังสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายได้อีกด้วยค่ะ
วิธีที่เรากล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นวิธีในการขจัดความเครียดเบื้องต้นค่ะ แต่สิ่งสำคัญจริง ๆ ก็คือ ความคิดของเรานั่นเองค่ะ หากวันนี้เราเปลี่ยนวิธีคิด พยายามมองทุกอย่างในแง่ที่ดีขึ้น รู้จักปล่อยวางมากขึ้น เพียงเท่านี้ชีวิตเราก็จะได้พบกับความสุขที่แท้จริงและยั่งยืนแล้วค่ะ
