เลือกรองเท้าอย่างไรให้เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน
รองเท้าจัดเป็นของใช้อีกหนึ่งอย่างที่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของทุกคน ช่วยป้องกันอันตรายจากสิ่งต่างๆไปถึงความสกปรกที่อาจปะปนอยู่บนพื้นและเป็นต้นเหตุใหเกิดเชื้อโรคได้ ด้วยเหตุนี้ รองเท้าจึงมีความสำคัญอย่างสูงโดยเฉพาะกับบุคคลที่มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือเป็นแผลได้ง่าย อย่างผู้ป่วยในโรคเบาหวาน สำหรับผู้ป่วยโรคนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ระมัดระวังบริเวณส่วนเท้าให้มาก ด้วยเหตุนี้ การหารองเท้าสำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานแล้ว ควรพิถีพิถันในรายละเอียดและความเหมาะของการใช้งานกับรองเท้ามากเป็นพิเศษ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของเท้า และหลีกเลี่ยงไม่ให้มีบาดแผลที่อาจจะเสี่ยงต่อการเกิดแผลเรื้อรังหายยาก ทั้งนี้การเกิดบาดแผลเพียงเล็กน้อยสำหรับผู้ป่วยโรคนี้และก็จะสามารถส่งผลกระทบใหญ่โตต่อการดำเนินชีวิตขึ้นมาได้ในอนาคต
ความสำคัญของรองเท้ากับผู้ป่วยเบาหวาน
เนื่องจากโรคเบาหวานนั้นอาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาการอักเสบที่ปลายระบบประสาท ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเป็นแผลขึ้นมาในส่วนของบริเวณเท้าและแน่นอนว่าปัญหาใหญ่หากผู้ป่วยเบาหวานเกิดแผลก็คือ ง่ายต่อการติดเชื้อ เกิดหนองที่แผล หนักไปกว่านั้นเริ่มจากแผลเล็กๆ ก็อาจจะสามารถทรุดลงไปสู่สภาวะการตายของเนื้อในบริเวณที่เป็นแผลหรือหนักไปกว่านั้น เมื่อการลุกลามกินพื้นที่มากขึ้น ส่งผลให้เนื้อที่ตายขยายวงการ อาจมีความเสี่ยงที่จำเป็นต้องตัดขาออกไปเลยที่เดียว ดังนั้นสำหรับการดูแลสุขภาพเท้าของผู้ป่วยเบาหวาน สามารถเริ่มได้ง่ายๆ ด้วยวิธีการหาความรู้เกี่ยวกับการเลือกรองเท้าอย่างไรให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเบาหวาน เพื่อให้เกิดความเหมาะสม เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดอัตราความเสี่ยงของการเกิดแผลบริเวณเท้าได้
จากผลการทดสอบที่มีมากมายในปัจจุบันพบว่า การใส่รองเท้าทั่วไปที่ไม่เหมาะสมกับตัวผู้ป่วยโรคนี้ ส่งผลต่อการเกิดแผลต่างๆ ได้ง่ายกว่า อีกทั้งเมื่อรักษาแผลจนหายดีแล้ว แต่หากยังสวมใส่รองเท้าแบบเดิมก็จะวนเวียนอยู่กับการเป็น ๆ หายๆ ไม่จบสิ้นและเสี่ยงต่อการลุกลามเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ปัจจุบัน ทั่วโลกจึงเริ่มทำรองเท้าที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับผู้ป่วยเบาหวานโดยเฉพาะ โดยได้รับการยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคนี้แล้วว่า ตัวรองเท้าสำหรับผู้ป่วยเบาหวานนั้นที่สามารถที่จะช่วยดูแลสุขภาพเท้า อีกทั้งป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเกิดแผลที่เท้าอีกด้วย
ทั้งนี้ การจะเลือกรองเท้าอย่างไรให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเบาหวานนั้นควรพิจารณาตามคุณสมบัติและลักษณะดังต่อไปนี้
– ควรเป็นรองเท้าที่กระชับเท้าไม่หลุดออกจากเท้าง่ายเวลาเดิน โดยแพทย์มีคำแนะนำว่า ควรเป็นรองเท้า ที่มีสายช่วยรัดหรือหุ้มบริเวณส้นเท้าให้ดี
– ขนาดและรูปแบบรองเท้านั้นควรเข้ากันได้ดีกับเท้าผู้ป่วยอีกทั้งไม่ควรที่ส่วนใดส่วนของของรองเท้าที่บีบรัดเท้าแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดบาดแผลจากการเสียดสีได้
– งดเว้นรองเท้าหูคีบ เนื่องจากเป็นการเพิ่มภาระให้นิ้วเท้าและอาจเกิดแผลจากแรงบีบของนิ้ว รวมไปถึงการเสียดสีในบริเวณระหว่างนิ้วเท้า ขณะเดิน
– วัสดุที่ใช้ทำรองเท้าควรเลือกที่ไม่แข็งจนเกินไป มีความยืดยุ่นขณะเดิน เมื่อสวมใส่ให้ความรู้สึกปลอดโปร่งสบายเท้า ไม่ปิดทึบจนเกิดความอับชื้นภายในและสามารถระบายอากาศได้เป็นอย่างดี
– พื้นรองเท้าด้านในไม่แข็ง ไม่บางและพอดีกับกับรูปร่างของฝ่าเท้า สามารถรองรับและห่อหุ้มเท้าได้เป็นอย่างดีขณะที่เดิน อีกทั้งไม่ควรมีรอยตะเข็บนูนขึ้นมาในบริเวณพื้นผิวภายในของรองเท้า
– ถึงแม้วัสดุที่ทำจะอ่อนนุ่ม ยืดหยุดได้ แต่ควรมีความแข็งแรงคงทน ไม่บิดเบี้ยวหรือเกิดการผิดเพี้ยนของรูปทรงได้ง่ายนัก
– ไม่ควรใส่รองเท้ามีส้นเพื่อลดภาระการทำงานและน้ำหนักที่ต้องแบกรับของปลายเท้า อีกทั้งหากใส่รองเท้ามีส้นแล้วสะดุดล้มอาจจะส่งให้เกิดแผลได้
– ขนาดเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการเลือกรองเท้าของผู้ป่วยโรคนี้ ควรเลือกให้พอดีกันระหว่างขนาดของเท้าและรองเท้า ไม่คับเกินไปหรือไม่หลวมเกินไป เพื่อให้รู้สึกสบายเวลาเดิน และไม่หลุดออกจากเท้าง่าย ๆ
– วัสดุและกระบวนการทำรองเท้าไม่ควรปนเปื้อนสารเคมี ทั้งนี้หากติดมากับรองเท้า สามารถส่งผลให้เกิดเชื้อรา หรือการระคายเคืองผิวหนังบริเวณเท้าได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นต้นเหตุให้เกิดแผลได้เช่นกัน
จะเห็นได้ว่าเท้าเป็นอวัยสำคัญที่ต้องใส่ใจและบอบบางมากในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ทั้งนี้การดูและรักษาเท้าให้ดีเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดแผลนั้น สามารถเริ่มได้ที่ตัวเองด้วยการเลือกรองเท้าให้เหมาะสม เพียงเท่านี้ก็จะเป็นการช่วยป้องกันเท้าไม่ให้เกิดแผลที่เสี่ยงต่อการลุกลามใหญ่โตได้ โดยมีผลเป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เบาหวานจะเป็นโรคที่น่ากลัว แต่ถ้าหากเป็นโรคนี้แล้ว ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ กินยาให้ถูกต้องตามที่ได้รับ อีกทั้งหมั่นดูแลและรักษาตัวเองให้ดี ก็จะช่วยลดภาวะความเสี่ยงต่างๆ ต่อการทรุดตัวของโรค สงผลให้ให้ผู้ป่วยโรคนี้สามารถใช้ชีวิตอย่างคนมีสุขภาพที่ดี ได้ต่อไปอีกอย่างยาวนาน