โยคะ การออกกำลังกายที่ช่วยฝึกสมาธิและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
พอพูดถึงการออกกำลังกายแล้วหลายคนก็อาจจะรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาได้เพราะการออกกำลังกายนั้นคือการออกแรง แต่ในปัจจุบันนี้มีการออกกำลังกายมากมายที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้โดยที่ไม่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไปอย่างเช่นการเล่นพิลาทิสหรือที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ก็คือโยคะนั่นเอง
โยคะเป็นการออกกำลังกายที่มีประโยชน์เป็นอย่างมากเพราะนอกจากมันจะส่งผลดีต่อร่างกายแล้วยังส่งผลต่อจิตใจของเราอีกด้วย เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยฝึกสมาธิได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและทำให้เรามีสมาธิจดจ่อกันมากยิ่งขึ้น มันเป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง เดิมทีมันเกิดที่ประเทศอินเดียมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 4-5 พันปีที่ผ่านมาแล้ว
เดิมทีนั้นเป็นการฝึกร่างกายของเหล่าโยคีหรือชนชั้นวรรณะพราหมณ์เป็นหลัก วัตถุประสงค์คือเพื่อเอาชนะอาการเจ็บป่วย จากนั้นลัทธิฮินดูก็ได้พัฒนาจนกลายมาเป็นโยคะจนถึงในยุคพุทธศาสนาและลัทธิเซนในประเทศจีน ปัจจุบันมันไม่ได้เป็นศาสตร์ของศาสนาใด แต่เป็นศาสตร์สากลสำหรับการปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายในการดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ โดยมุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาทางร่างกายและจิตใจให้มีศักยภาพสูงสุด
ประโยชน์ของมันนั้นมีมากมายไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกายทั้งช่วยยืดกล้ามเนื้อ ทำให้ระบบร่างกายไม่ว่าจะเป็นกระดูก เส้นเอ็น กล้ามเนื้ออยู่ในสภาพสมบูรณ์ พวกข้อต่อสามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้น ปรับกระดูกสันหลังให้กลับมาอยู่ในสภาพปกติ ช่วยลดอาการปวดตามร่างกายได้ ทำให้มีรูปร่างที่เหมาะสม เหมาะสำหรับคนที่อยากจะลดน้ำหนักเป็นอย่างมากเนื่องจาก 1 ชั่วโมงสามารถเผาผลาญได้ถึงประมาณ 200 kcal เลยทีเดียว
โยคะนั้นยังสามารถมอบประโยชน์ทางด้านจิตใจได้ด้วยเนื่องจากเป็นการฝึกสมาธิ ช่วยพัฒนาระบบประสาทในการติดต่อสื่อสารที่มีความสัมพันธ์กับกลไกในร่างกายช่วยให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ช่วยให้เรามีกระบวนการคิดที่มีสติ มีความรู้สึก รับรู้ได้ถึงอารมณ์และจิตของตนเอง ช่วยให้เราสามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดียิ่งขึ้น สงบ ลดอาการวิตกกังวลตื่นกลัวได้เป็นอย่างดี ลดอาการเหนื่อยง่าย ให้แต่ละวันของเราเต็มไปด้วยพลัง
และยังช่วยให้เรานอนหลับสนิทมากยิ่งขึ้น สำหรับสายความสวยความงามมันช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดทำให้ร่างกายมีอัตราการหมุนเวียนของเลือดที่เพียงพอทำให้สามารถชะลอความแก่ไปได้ ช่วยให้ผิวพรรณดี สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย แต่สำหรับคนบางกลุ่มอาจต้องปรึกษาแพทย์ก่อนฝึกอย่างเช่นคนที่มีปัญหาเรื่องความดัน หมอนรองกระดูกเสื่อม มีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ และสตรีมีครรภ์