โรคต้อคืออะไร
หากเราสำรวจประชากรที่มีอายุมากในประเทศไทย จะรู้ทันทีว่าปัญหาต้อหินคือปัญหาโลกแตกและยอดฮิตที่การันตีได้ว่ากว่า 70% คนชราเผชิญปัญหานี้อยู่ ซึ่งคนจะไม่ค่อยรู้ว่ากำลังเจอกับโรคชนิดนี้อยู่ ความน่ากลัวคือผู้ป่วยจะทราบก็ต่อเมื่อตาใกล้จะบอดแล้ว แต่สามารถแก้ได้หากเราได้รับการรักษาจากแพทย์อย่างถูกต้องและรวดเร็ว อย่างไรก็ตามโรคต้อก็จะมีที่ระดับหลายเลเวล ขึ้นอยู่กับความรุนแรง ประเภทต้อที่สามารถพบได้ทั่วไปจะมีไม่กี่ชนิด เช่น ต้อลม ต้อกระจก ต้อเนื้อ ต้อหิน ความอันตรายไม่ได้มีไม่ต่างกันเลย ทุกตัวมีเป้าหมายคือทำลายชั้นประสาทตา
ต้อหินคือหนึ่งในต้อสุดฮิตที่คนไทยชอบเป็นมากที่สุด ต้อหินเกิดจากการทำลายขั้วประสาทตา นอกจากปัจจัยภายในที่เรากล่าวไปนั้น ปัจจัยภายนอกก็มีผลด้วย เช่น ภาวะอักเสบรุนแรง การติดเชื้ออย่างรุนแรง การถูกกระแทกหรือสัมผัสกับสารเคมี แต่ปัจจัยเหล่านี้เป็นไปได้ยากมาก ปกติแล้วในตาของเราจะมีน้ำหล่อลื่น เรียกว่า Aqueous Humor ซึ่งผลิตมาจากเนื้อเยื่อ Cilitary body หน้าที่หลักคือหล่อเลี้ยงกระจกตาไม่ให้แห้ง สังเกตได้จากคนที่ตาแห้งนั่นหมายความว่าน้ำหล่อลื่นน้อย ต้องใช้ยาหยอดตาเป็นตัวช่วย นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องความสมดุลของน้ำในตาอีกด้วย
การวินิจฉัยต้อหินสามารถทำได้โดยการให้จักษุแพทย์วินิจฉัยเท่านั้น โดยจะมีหลายวิธีมากมาย เช่น
- ตรวจความดันที่ลูกตา โดยที่ปกติความดันลูกตาจะอยู่ที่ 12-20 มิลลิเมตรปรอท หากสูงกว่า 21 มิลลิเมตรปรอท แสดงว่าตาเราผิดปกติ
- วัดความหนาของกระจกตา วิธีนี้จะใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า Corneal Pachymetry เพื่อวัดความหนาแล้วมาประเมินค่าความดันตา ซึ่งการทำเช่นนี้ให้ค่าที่แม่นยำมาก ๆ
- การตรวจช่องการไหลของน้ำในตา เครื่องมือที่ใช้คือ Gonioscopy วิธีนี้สามารถรู้ได้อีกว่าต้อหินเป็นแบบชนิดไหน ต้องรักษาแบบใด
เรื่องพฤติกรรมการกินก็สำคัญต่อคนที่เป็นโรคต้อหินเช่นเดียวกัน มาดูกันดีกว่าว่าต้อหิน ห้ามกินอะไร หรือต้องกินอะไรเพื่อให้โรคนี้ดีขึ้น
- ข้อแรกที่ต้อหิน ห้ามกินอะไร นั่นคือผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เช่น กล้วย แอปเปิ้ลแดง ทุเรียน
- ผู้ป่วยควรดื่มชาเยอะ ๆ เนื่องจากชามี antioxidant ป้องกันการเสื่อมของประสาทตา
- ทานผักใบเขียวเยอะ ๆ เพราะผักใบเขียวส่งผลดีต่อประสาทตาเป็นอย่างมาก ทำให้ตาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ห้ามบริโภคอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเยอะ ให้เน้นไปที่โปรตีน ไขมันดีจากสัตว์ นอกจากบำรุงตาแล้ว สุขภาพก็ดีขึ้นอีกด้วย