โรคหลอดเลือดในสมองตีบตัน โรคทางสมองที่ไม่ควรประมาท
ช่วงวัยสูงอายุจัดเป็นวัยที่ระบบต่างๆในร่างกายเริ่มเสื่อมถอยประสิทธิภาพลง ภูมิคุ้มกันต่างๆที่เคยมีเริ่มหมดไป ทั้งนี้เป็นผลมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าเป็นการทำงานหนัก การดื่มสุราหรือสูบบุหรี่จัดในช่วงวัยก่อนหน้า รวมไปถึงการรับประทานอาหารก็จัดว่ามีผลกระทบเช่นกัน ทั้งนี้เมื่อสมาชิกในครอบครัวเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุแล้ว ควรได้รับการดูแลที่ดีอย่างใกล้ชิด เพราะเมื่อร่างกายอ่อนแอแล้วสิ่งที่จะเป็นต่อมานั่นก็คือการเกิดโรคภัยต่างๆขึ้น อย่างไรก็ก็ตาม สมาชิกคนอื่นๆในครอบครัวควรช่วยกันสังเกต รวมถึงพาไปพบแพทย์เมื่อเริ่มมีอาการต่างๆที่น่าสงสัยจะเป็นจุดเริ่มต้นของโรคร้าย เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที และผู้สูงอายุสามารถกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติสุขกับครอบครัวได้ดังเดิม
การเรียนรู้หรือทำความรู้จักชนิดต่างๆของโรคที่พบบ่อยจะในผู้สูงอายุ ถือเป็นเรื่องสำคัญอีกหนึ่งอย่างของสมาชิกภายในครอบครัว นอกจากจะช่วยให้เข้ารักษาได้ทันท่วงทีแล้ว การรู้ถึงโรคตั้งแต่เนิ่น ๆ นั้นยังง่ายต่อการรักษาอีกด้วย
โรคหลอดเลือดสมองตีบตัน
จัดเป็นอีกหนึ่งโรคร้ายทางสมองและเป็นโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุในหนึ่งปีมีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ในปัจจุบันมีสถิติผู้ป่วยสูงอายุเป็นโรคนี้ ค่อนข้างสูง โดยเป็นโรคที่ เกิดกับหลอดเลือดแดงที่ส่งไปเลี้ยงสมองเกิดภาวะลิ่มเลือด หรือแข็งตัวส่งผลให้หลอดเลือดเลือดตีบตันไม่สามารถส่งผ่านเข้าไปยังสมองได้ ส่งผลให้สมองไม่ได้รับเลือดส่งไปหล่อเลี้ยง ทำให้สมองตาย อาการที่จะได้รับเมื่อเกิดโรคนี้ คือการเป็นอัมพาต ทั้งแบบครึ่งซีกของร่างกายและแบบทั่วร่างกาย หรือหนักไปกว่านั้นบางรายหากส่งไปถึงโรงพยาบาลไม่ทันเวลาก็อาจจะเสียชีวิตได้เลยทีเดียว ดังนั้นโรคนี้จึงจัดว่าเป็นโรคที่น่ากลัว มักจะเกิดแบบกะทันหัน สมาชิกในครอบครัวจึงควรต้องสังเกตและดูแลเป็นอย่างดีเมื่อผู้สูงอายุมีภาวะโรคนี้
โรคหลอดเลือดในสมองตีบตันนั้นถึงแม้จะมีอาการแบบฉับพลัน แต่อย่างไรก็ตามบางรายอาจมีการส่งสัญญาณให้กับผู้ป่วยได้รับรู้ก่อน โดยจะมีอาการ ตาพล่าเบลอ มองไม่ขัด ร่างกายเริ่มชา กล้ามเนื้อบนใบหน้าบิดเบี้ยว ออกเสียงไม่ชัด เดินเซ ไม่ตรงทาง บางรายอาจมีอาการปวดหัวจัดร่วมด้วย ผู้ป่วยควรมีความรู้ความเข้าใจในโรคหากพบความผิดปกติกับร่างกายควรบอกคนในครอบครัวเพื่อให้พาไปโรงพยาบาล รับการรักษาเพื่อให้ทันท่วงทีและไม่ทรุดหนักลงไป ทั้งนี้ผู้ป่วยในโรคนี้มักเป็นอาการร่วมกับโรคอื่นๆด้วย เช่น เบาหวาน, หัวใจ, ความดันสูง, อ้วนไขมีนในเลือดสูง อีกทั้งการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงวัยที่สูงอายุแล้วนั้นก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญของโรคนี้เช่นกัน
การรักษาโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน
การรักษาของโรคนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและอาการที่พบ ทั้งนี้หากเป็นแบบอาการปรากฏขึ้นในฉับพลันควรมาถึงมือหมอ ภายใน 3 – 4.5 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถทำการรักษาให้กลับมาเป็นปกติได้ โดยวิธีการรักษานั้นเนื่องจากมีสาเหตุของโรคเกิดจากปัญหาที่เลือดไปหล่อเลี้ยงสมองไม่ได้ จึงต้องทำให้เลือดสามารถกลับไปเลี้ยงสมองได้เหมือนเดิม เพื่อไม่ให้สมองตาย
โดยการให้ยาละลายลิ่มเลือด (Thrombolysis) หรืออีกวิธีหนึ่งคือการใส่สายสวนเข้าไปตรงจุดที่อุดตันเพื่อดึงเอาลิ่มเลือดที่อุดตันออกมา ทั้งหมดทั้งมวลนี้ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์เฉพาะทาง เนื่องจากสมองมีความละเอียดอ่อนค่อนข้างสูง โดยหลังจากรักษาการตีบตันของหลอดเลือดแล้ว ผู้ป่วยควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดอีกอย่างต่ำ 2-3 วันเพื่อสังเกตอาการ อย่างไรก็ตามหากมีผลข้างเคียงอื่นๆ ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดป้องกันการทรุดตัวของโรคแทรกซ้อนนอกจากนี้ อาจจะต้องเข้ารับการบำบัดร่างกายกรณีที่เกิดอาการชาตามส่วนต่างๆ หรืออัมพาตครึ่งซีก เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติเหมือนเดิม
เมื่อสามารถกลับมาเป็นปกติได้อีกทั้งสมาชิกในครอบครัวตลอดจนผู้สูงอายุเองควรเชื่อฟังคำแนะนำของแพทย์ เฝ้าระวังกิจกรรมต่างๆที่อาจทำให้อาการทรุดลง ใส่ใจเรื่องอาหารการกินให้มากขึ้น ออกกำลังกายตามกำลังที่ทำได้ ที่สำคัญคือการไปตามนัดของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ กินยาให้ตรงเวลาตามคำสั่ง นอกจากนี้หากมีอาการผิดปกติกับร่างกายเหมือนครั้งก่อนควรรีบให้คนในครอบครัวพาไปโรงพยาบาลทันที เนื่องจากโรคนี้ หากอาการกำเริบแล้วการถึงมือหมอได้ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งเป็นผลดีต่อตัวของผู้ป่วยเอง