โรคไต อีกหนึ่งโรคร้ายแรงที่ควรดูแลไม่ให้เกิดขึ้น
ไตจัดเป็นอีกหนึ่งอวัยวะที่สำคัญมากที่สุดสำหรับร่างกายของมนุษย์ ทำหน้าที่สำคัญมากมายให้กับกระบวนการต่างๆที่เป็นประโยชน์ภายในร่างกาย เช่นการขับของเสียออกมา เพื่อเพิ่มความสะอาดของเลือดและโครงสร้างภายใน นอกจากนี้ยังสร้างวิตามินและฮอร์โมนที่ดีกับร่างกายอีกทั้งคอยควบคุมความดันโลหิต ตลอดจนความเป็นกรดและต่างภายในร่างกายอีกด้วย
ด้วยการทำงานที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ ไตจึงเป็นอีกหนึ่งอวัยวะสำคัญที่ควรดูและให้ดี เพื่อให้สามารถทำงานได้เป็นปกติอยู่เสมอ เนื่องจากการทำงานเหล่านี้ถือว่ามีความสำคัญ และส่งผลเป็นอย่างมากกับการดำรงค์ชีวิตของมนุษย์เลยทีเดียว
โรคไต
จัดเป็นอีกหนึ่งโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ โดยมีสาเหตุจากหลากหลายปัจจัยด้วยกัน โรคนี้ส่งผลให้เกิดสภาวะที่เรียกว่าไตวาย หรือการหยุดทำงานของไต ซึ่งหากเกิดภาวะไตวายขึ้นมา ก็ถือว่าจะส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อชีวิตของผู้ป่วยเลยทีเดียว โดยเมื่อการทำงานของไตถูกหยุดลงนั้น จะส่งผลให้เกิดสิ่งสกปรกต่างๆภายในเลือด ค่าความเป็นกรดและต่างไม่สมดุล นอกจากนี้ผลที่ตามมาอีกก็คือ อวัยวะต่างๆภายในร่างกายเป็นพิษ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย จนถึงขั้นร้ายแรงที่อวัยวะภายในอื่นๆ ไม่สามารถทำงานได้ต่อไป ผู้ป่วยก็จะอาจจะเสียชีวิตลงได้เลยทีเดียว โรคนี้จึงนับว่าเป็นอีกโรคหนึ่งที่มีความอันตรายมาก โดยโรคนี้อาจจะเกิดขึ้นเองหรือได้รับภาวะแทรกซ้อนจากโรคอื่นๆ ได้ เช่น เบาหวาน, ความดัน, นิ่ว และเก๊าท์ เป็นต้น หากมีการพบความผิดปกติของร่างกายที่คล้ายสภาวะของโรคนี้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างทันท่วงที ก็จะสามารถช่วยให้อาการดีขึ้นได้ และความอันตรายก็จะลดน้อยลงไป สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติอีกครั้งหนึ่ง
อาการเบื้องต้น
ผู้ป่วยที่มาอาการเข้าข่ายสภาวะไตวาย สามารถสังเกตอาการผิดปกติที่ส่งสัญญาออกมาได้ด้วยการสังเกตจากพฤติกรรมการปัสสาวะ หากเริ่มมีการปัสสาวะบ่อยครั้ง ครั้งละไม่มาก ปัสสาวะออกช้า ไม่สุด หรือการปัสสาวะออกมาแล้วมีเลือดผสม ก็ควร เข้าพบขอคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อวินิจฉัยการรักษาในลำดับต่อไป
อาการขั้นรุนแรง
หากผู้สูงอายุในครอบครัว มีสภาวะของโรคนี้ สมาชิกคนอื่นๆควรดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้เมื่อพบว่าอาการเข้าข่ายสภาวะไตวายหรือหยุดทำงานขั้นรุนแรง ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที โดยอาการที่สามารถสังเกตมีดังนี้
– อาเจียนบ่อยๆ จนอ่อนเพลีย หรืออาเจียนเป็นเลือด
– มีอาการบวมตามเนื้อตัว และมีรอยช้ำแบบไม่ทราบสาเหตุ
– หายใจลำบาก
– ไอออกมาเป็นลิ่มเลือด
– มีการปวดเมื่อยตามร่างกายอยู่บ่อยๆ
อาการเหล่านี้ถือว่าสภาวะไตวายเริ่มเข้าขั้นรุน ควรรีบนำส่งโรงพยาบาล เพื่อรักษาทันที หากปล่อยทิ้งไว้ อาการเสื่อมถอยเริ่มสะสมเพิ่มขึ้นจนถึงหยุดทำงานแบบ 100% ก็จะส่งให้เสียชีวิตได้ในที่สุด
การรักษา
ปัจจุบันมีวิธีการรักษาโรคนี้แตกต่างกันไปมากมายตามความรุนแรง
– การรักษาแบบธรรมชาติ หากผู้ป่วยมีสภาวะไม่ร้ายแรงมาก อยู่ในขั้นเริ่มต้น สามารถรักษาได้โดยการปรับพฤติกรรมต่างๆ เช่นการเลือกรับประทานอาหาร ตลอดจน หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ก็อบจะช่วยให้ไตยังทำงานอยู่ได้
– การรักษาโดยการใช้ยา หากเริ่มมีอาการรุนแรง มากขึ้นแพทย์อาจสั่งจ่ายยา ควบคู่ไปกับการทานอาหาร ทั้งนี้ มีทั้งยากินและยาฉีด ซึ่งแพทย์จะสั่งจ่ายตามระดับความรุนแรงที่ตรวจเจอ
– การรักษาด้วยการฟอกไต ในกรณีที่เข้าขั้นร้ายแรงมาก ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาวิธีนี้ โดยมีความถี่ในการฟอก แตกกบต่างกันไปตามความรุนแรงขอแต่ละคน
-ผ่านตัดเปลี่ยนไต ในกรณีที่เข้าสู่ภาวะรุนแรง ที่ไตอาจจะไม่สามารถทำงานต่อไปได้ ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้านับการรักษาด้วยวิธีนี้ โดยการหาไต จากผู้บริจาค รวมถึงคนในครอบครัวที่มีความเข้ากันได้มากที่สุดมาใส่ลงไปให้กับผู้ป่วยเป็นการทดแทน
ปัจจุบันโรคไตเป็นอีกหนึ่งโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ มีอัตราการเสียชีวิตไม่น้อยสำหรับผู้ป่วยที่เข้าสู้สภาวะไตวายขั้นรุนแรง นอกจากนี้ปัญหาเกี่ยวกับไตในด้านอื่นนอกเหนือจากไตวายแล้ว ยังมี ส่วนประกอบไตอักเสบ และนิ่วในไต ซึ่งเหล่านี้ส่งผลต่อการทำงานของไตเช่นเดียวกัน สำหรับผู้ป่วยที่ตรวจพบในระยะเริ่มแรก การปรับพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ทั้งการควบคุมเลือกชนิดของอาหาร การไม่ทานรสจัด การออกกำลังกาย การทานยาตามคำแนะนำแพทย์รวมไปถึงงดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็จะถือได้ว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาไตเอาไว้ ให้แข็งแรงและทำงานได้ดีตามกระบวนการต่างๆของร่างกาย