8 อาหารช่วยลดกรดยูริก กินอะไรโบกมือให้โรคเกาต์
ต้องบอกเลยว่า กรดยูริก เป็นสิ่งที่ร่างกายของเราสร้างขึ้นเองและเป็นสิ่งที่มาจากอาหารที่เราทานด้วย และกรดยูริกนี่เองถ้าหากมีปริมาณสะสมในร่างกายที่มากจนเกินไปก็จะทำให้เรามีความเสี่ยงกับการป่วยเป็นโรคเกาต์ได้ ซึ่งโรคเกาต์อาจจะดูไม่ร้ายแรง ไม่อันตรายแต่ความทรมานก็ไม่น้อยเลยทีเดียว เรียกว่าไม่ป่วยจะดีกว่า แต่ถึงแม้ว่าร่างกายจะสามารถสร้างกรดยูริกขึ้นมากได้และยังสามารถรับมาจากอาหารที่เราทานเข้ามาอีก แต่ก็มีอาหารที่ช่วยลดกรดยูริกเช่นกัน มาดูกันดีกว่าว่า 8 อาหารช่วยลดกรดยูริก มีอะไรบ้าง
8 อาหารช่วยลดกรดยูริก ทานแล้วห่างไกลลดความเสี่ยงเป็นเกาต์
- นมไขมันต่ำ บอกเลยว่าในปัจจุบันหาทานได้ง่ายมาก ๆ หากเราดื่มนมที่มีไขมันต่ำ 1 แก้วต่อวันมีงานวิจัยพบว่าจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเกาต์ได้ถึง 40 เปอร์เซ็นด้วยกัน เนื่องจากนมมีโปรตีนที่กลายเป็นกรดอลานึล และกรดนี้เองที่ช่วยขับกรดยูริกในร่างกายของเราออกมาได้อย่างดีเลยทีเดียว
- ผลไม้ ควรเลือกทานผลไม้ที่มีวิตามิน เช่น ส้ม หรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ก็สามารถช่วยได้ หากในหนึ่งวันเราทานวิตามินซี 500 มิลลิกรัมเป็นอย่างน้อย ก็จะช่วยลดปริมาณของกรดยูริกได้
- กล้วย หากต้องการทานให้ได้ผล ควรทานกล้วยวันละ 1-2 ลูก ติดต่อกันประมาณ 2 สัปดาห์
- แอปเปิ้ล เวลาทานไม่ต้องปลอกเปลือกเพียงล้างให่สะอาดเท่านั้น และควรทานประมาณ 4 ลูกต่อสัปดาห์
- เชอรี่ ต้องบอกเลยว่าในเชอรี่นั้นมีสารแอนโทไซยานิน ที่ช่วยลดอาการอักเสบได้ แถมยังช่วยลดกรดยูริกในร่างกายของเราได้อีกด้วย
- กาแฟ เป็นอีกเมนูหนึ่งที่สามารถช่วยลดกรดยูริกได้ แต่ต้องระวังไม่ควรดื่มในปริมาณมากจนเกินไปและในบางคนอาจจะไม่สามารถดื่มกาแฟได้ และควรดื่มกาแฟดำ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดในการลดกรดยูริก
- อาหารที่มีสารพิวรีนน้อย จำพวกไข่ นม เต้าหู้ หรือไขมันที่ได้มาจากพืชและสัตว์ แต่ก็ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะไม่มากจนเกินไป
- น้ำดื่มสะอาด เรียกว่าหาง่ายที่สุด และสามารถขับกรดยูริกออกจากร่างกายโดยทางปัสสาวะ อย่างน้อยในหนึ่งวันควรดื่มน้ำสะอาดไม่น้อยไปกว่า 8 แก้วต่อวันเพื่อที่จะทำให้เราปัสสาวะออกมา หรืออาจจะใช้วิธีการใส่ผลไม้สดที่ช่วยลดกรดยูริกเข้าไปด้วยก็ได้เพื่อให้มีกลิ่นหอม ๆ รสชาติอ่อน ๆ อย่างสตอเบอร์รี่ เป็นต้น สามารถค่อย ๆ ดื่มไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบร้อนแต่ให้หมดในหนึ่งวัน
อย่างไรก็ตามลองหา 8 อาหารช่วยลดกรดยูริก มาทานเพื่อลดความเสี่ยงและลดปริมาณกรดยูริกในร่างกายของเรากันดูเพื่อจะได้ไม่ต้องทรมานกับข้ออักเสบจากโรคเกาต์นะทุกคน
